วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แผนการจัดการเรียนรู้ Backword Design

แผนการสอนมาใหม่นะครับเพื่อนๆ...
จะเปิดเทอมแล้ว ผอ. หรือฝ่ายวิชาการก็เร่ง ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ ทำไม่ทัน วันนี้เรามีแผนการสอนมาฝาก มาใหม่สอดคล้องกับหลักสูตรใหม่ นั่นคือหลักสูตร 51 นั่นเอง และยังเป็นแบบ Backword Design ด้วย เอ้า..ไม่พูดมาก ดาวน์โหลด ตามใจชอบได้เลยครับ..

แผนการสอน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
แผนการสอน วิชาศิลปะ ชั้น ป.4
วิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป.4
วิชา คณิตศาสตร์ ป.4
วิชา วิทยาศาสตร์ ป.4
วิชา ดนตรีศึกษา ป.4
************************************************************

วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ผลสอบภาค ข ของสำนักงาน กพ.

วันนี้....พักยกเกี่ยวกับการสอบครูเอาไว้ก่อนนะครับเพื่อนๆ วันนี้เรากำลังติดตามผลการสอบภาค ข. ของสำนักงาน กพ. ให้กับเพื่อนๆ อีกหลายคนที่ไปสอบมา ยังไงก็ลุ้นเอาใจช่วยนะครับ..เห็นวันที่เพื่อนๆ ไปสอบบอกว่าจะประกาศผลวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 เราจะตามติดผลมาให้เพื่อนๆ ดูอีกทางหนึ่งนะครับ..เพราะวันประกาศไม่แน่ว่า Sever อาจจะล่มหรือเปล่าเพราะคนแห่กันดูอย่างมาก อีกอย่างคนไปสอบเยอะกว่าครูเสียอีก วันนี้เอาลักษณะของใบรับรองแพทย์ที่ถูกต้องมาให้เพื่อนๆ ดูสำหรับคนที่ผ่าน ภาค ข. ของ กพ. จะได้เอาไปยื่นวันสัมภาษณ์ ถ้าให้ถูกต้องเลยก็คือไปเอาใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐนั่นเอง เพราะคลีนิกอาจจะไม่มีรูปแบบตามที่กำหนดก็ได้นะครับ

- รูปแบบ ใบรับรองแพทย์ที่ถูกต้อง ที่จะยื่นในวันสอบสัมภาษณ์

- แผนที่เดินทางไปสอบสัมภาษณ์ สำนักงาน กพ. (จังหวัดนนทบุรี)

- ประกาศเอกสารที่ต้องนำไปยื่นวันสัมภาษณ์

- กำหนดวัน เวลา สถานที่ ช่วงรหัสสอบในการสัมภาษณ์

- ระเบียบว่าด้วยการเข้าสอบสัมภาษณ์

ประกาศผล ตำแหน่ง

รายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์

ตำแหน่งนิติกรปฏิบัติการ

ดูผลการสอบ

ตำแหน่งเศรษฐกรปฏิบัติการ

คลิกดูผลการสอบ

ตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ

คลิกดูผลการสอบ

ตำแหน่งนักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ

คลิกดูผลการสอบ

ตำแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ

คลิกดูผลการสอบ

ขอให้เพื่อนๆ โชคดีในการสอบ และได้บรรจุทุกคนนะครับ....^_^

วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

เทคนิคการอ่านตามหลัก SQ3R (เพื่อให้สอบบรรจุได้)


สวัสดีเพื่อนๆ....มาคราวนี้เอาเทคนิคดีๆ มาฝาก คิดว่าหลายคนคงขมักเขม้นกับการอ่านหนังสือสอบบรรจุแน่ๆ เลยใช่ไหม..ซึ่งกลุ่มนี้ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเพราะเป็นคนขยัน แต่หากเพื่อนๆ ไม่มีเวลาอ่าน หรืออ่านแล้วจำไม่ได้สักทีกับสิ่งที่อ่าน อ่านแล้วง่วง และก็ง่วง เป็นอย่างนี้ประจำละก็ ลองเอาเทคนิคการอ่านตามหลัก SQ3R ไปใช้ดู เพราะหลักการอ่านแบบนี้จะทำให้เพื่อน ๆ จำได้แม่น เวลาสอบก็ระลึกชาติได้ (เว่อร์ไปและ ^_^) แหะๆ อย่างไรก็แล้วแต่ เพื่อนๆ ลองเอาไปใช้ดู ซึ่งน่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย เพราะว่า สพฐ. ประกาศรับสมัครเร็ว และสอบเร็ว เวลาเตรียมตัวก็ช้า เฮ้อ!!..ทำไงดี ลองหลักการอ่าน SQ3R ไปทำดูแล้วจะรู้ว่าไม่ทำ-มะ-ดา...

ไปดูกันเล๊ย....ตามมาเลยครับ..




เทคนิคการอ่านตามหลัก SQ3R เรามาดูกันว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
Survey (สำรวจ) :
- สำรวจดูว่าหนังสือเล่มนี้มีหัวข้อเกี่ยวกับเรื่องอะไร ? ใครเป็นคนเขียน ? มีพื้นฐานความรู้อย่างไร ? พิมพ์เมื่อไร ?
- อ่านคำแนะนำและศึกษาว่าผู้เขียนต้องการเขียนตำราเล่มนี้เพื่อให้บุคคลกลุ่มใดอ่าน มีจุดประสงค์จะครอบคลุมเรื่องใดบ้าง ผู้เขียนแนะนำวิธีการอ่านหรือไม่
- เนื้อหาในหนังสือกล่าวถึงอะไรบ้าง
- อ่านดรรชนี เพื่อหาบทความที่เฉพาะเจาะจง
- มีภาพประกอบ/แผนภูมิหรือไม่
- มีการสรุปย่อแต่ละบทหรือไม่
- มีสัญลักษณ์บ่งชี้ เช่น ขนาดตัวอักษร การขีดเส้นใต้ ลำดับความสำคัญของการจัดวางหัวข้อซึ่งบ่งบอกถึงระดับความสำคัญของแต่ละหัวข้อ
Question (ตั้งคำถาม) :
- ก่อนอ่านหนังสือ เราน่าจะมีคำถามในใจไว้ล่วงหน้าว่าเราจะอ่านหนังสือเล่มนี้เพื่ออยากรู้อะไร ? อยากตอบคำถามอะไร ? หรือเป็นการเก็งข้อสอบว่าเขาจะถามว่าอะไรนั่นเอง
- คำถามเหล่านั้น อาจจะมาจากเราตั้งคำถามเอง ถามเพื่อน เพื่อเป็นการหาคำตอบ ก็ได้
Read (อ่าน) :
อ่านครั้งที่ 1
- อ่านอย่างเร็วพยายามเจาะหาประเด็นสำคัญของแต่ละบท แต่ละหัวข้อ แต่ละย่อหน้า
- อย่ามัวแต่ขีดเส้นใต้ หรือป้ายปากกาสี ควรทำเครื่องหมายด้วยดินสอและเขียนอย่างเบา ๆ (ทำบ่อยมาก T_T)
- อย่ามัวแต่จดบันทึกเพราะจะทำให้สมาธิในการอ่านลดลง (เฮ้อ..ทีแรกเราก็ทำ)
อ่านครั้งที่ 2
- อ่านซ้ำอีกครั้ง คราวนี้ทำเครื่องหมายข้อความที่สำคัญ (หลักการที่ถูกต้องแฮะ..เริ่มจำได้ดีขึ้น)
- รวบรวมประเด็นต่าง ๆ เข้าด้วยกัน
- ลองประเมินเนื้อหา (หากเป็นข้อโต้แย้งให้พิจารณาว่าอ่านแล้วดูมีเหตุผลหรือไม่ ข้อมูลที่บอกในหนังสือดูขัดกับความจริง หรือความรู้ที่เรารู้มาหรือไม่)
- สรุปเนื้อหา เพื่อง่ายต่อการรื้อฟื้นความจำในภายหลัง
Recall (ฟื้นความจำ) :
เมื่อสิ้นสุดเนื้อหาของแต่ละบท บันทึกย่อ อย่าย่อชนิดยาวจนเกินเหตุ ซึ่งเป็นการแสดงว่า
เรายังจับประเด็นไม่ถูกต้อง (แต่เราชอบย่อเป็น Mind Mapping ไม่รู้ทำไมทำให้จำได้ดีกว่าอ่ะคับ)

Review (ทบทวน) : หรือเรียกว่าขั้นระลึกชาติ (ปิดหนังสือแล้วนั่งเล่าสิ่งที่ตัวเองรู้ให้ตัวเองฟัง)
- สำรวจดูหัวข้อ (ชื่อ) ของหนังสือ หัวข้อและเนื้อหาโดยย่อของแต่ละบท
- ตรวจสอบว่าเนื้อหาที่มีนั้น ตอบคำถามที่เรามีไว้ในใจหรือไม่
- อ่านอีกครั้ง เพื่อแน่ใจว่าเราเก็บประเด็นสำคัญของหนังสือได้หมด
- เติมสิ่งที่ขาดตกบกพร่อง
====================================================================

เป็นไงบ้าง..เพื่อนๆ มาถึงตอนนี้แล้วลองเอาวิธีการอ่านแบบ SQ3R ไปใช้ดูบ้างนะครับ ได้ผลเป็นอย่างไร มาบอกด้วยนะครับ...กล่องข้อคิดเห็นด้านล่าง เพื่อนๆ สามารถแสดงความคิดเห็นได้ครับ....

====================================================================

ส่วนเพื่อน ๆ....เอกคอมพิวเตอร์ ที่ถนัดกับการทำงานคอมพิวเตอร์นะครับ วันนี้เราจะเอาเทคนิคการทำงานของคอมพิวเตอร์ มาใช้กับอ่านเพื่อสอบบรรจุ ด้วยหลัก SCAN-SEARCH-SAVE หรือเรียกว่า 3S นั่นเอง

ขั้นตอนของหลักการอ่านแบบ 3S มีดังนี้
Scan (แสกนเนื้อหา) : ได้แก่การอ่านเนื้อหาอย่างหยาบ ๆ และรวดเร็ว เพื่อจับใจความว่าหนังสือนี้ประกอบด้วยบทใดบ้าง มีบทนำ การเรียงลำดับหัวข้อเป็นเช่นใด มีแผนภูมิ รูปภาพประกอบมากน้อยเพียงใด
Search(ค้นหาสิ่งสำคัญ) :
- หาบทที่มีเนื้อหาตรงกับความต้องการ
- หาคำตอบ เพื่อตอบคำถามที่ตั้งไว้
- ทำเครื่องหมาย (ใช้ดินสอ เขียนเบา ๆ)
- ศึกษาเนื้อหาในแต่ละย่อหน้าที่ตรงกับจุดประสงค์
Save(บันทึกลงสมอง) :
- เก็บข้อมูล เนื้อหา ของโครงสร้างของแต่ละบท
- จดเนื้อหาที่สำคัญ

====================================================================

เฮ้อ..เหนื่อยเหมือนกันแฮะ..แต่เพื่อให้เพื่อนๆ ได้นำหลักการอ่านไปใช้ และได้บรรจุรอบแรกๆ ก็ยินดี และดีใจมากแล้วครับ...ยังไงก็ขอให้โชคดีกับการสอบครั้งนี้นะครับ...มีสุภาษิตบทหนึ่งทิ้งท้ายว่า ความทุกข์ที่เหลือทน จะหลอมคนให้ทนทาน...สู้ๆ ครับ..

...รอบต่อไป...จะหาข้อสอบแต่ละวิชาเอกไว้ให้เพื่อนๆ เอาไปอ่านนะครับ เพราะมีคนเรียกร้องมาก....

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก : gotoknow.org/blog/skuikratoke/190456


เรื่องนี้น่าจะออกสอบนะ วิธีการสอนแบบ Backward Design


สวัสดีเพื่อน ๆ วันนี้..ขอมาเน้นย้ำเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ Backward Design เพราะว่าบูมแอนด์บูมมากๆ เพราะว่าทางโรงเรียนส่งครูไปอบรม อบจนเกรียมกันไปหมดแล้วครับเนี่ย T_T (แต่เอาน่า..ได้ความรู้)ทำไม สพฐ. จึงเร่งอบรมครู ก็เพราะว่า สพฐ. จะนำมาใช้กับการเรียนการสอนทั่วทุกโรงเรียนนะสิครับ เหมือนกับหลักสูตรแกนกลาง’51 นั่นแหละ..ที่ตอนนี้ก็อบรมกันเกี่ยวกับ 2 เรื่องนี้อย่างหนักเลย เราจึงมองว่า หาก สพฐ. จะออกข้อสอบ ก็น่าจะหยิบยกเกี่ยวกับ 2 เรื่องนี้มาออกอย่างแน่นอน หรือถ้าสอบภาค ก. และ ข. ผ่านแล้ว สิ่งที่จะถามในภาค. ค. (สอบสัมภาษณ์) ก็น่าจะถามเกี่ยวกับ 2 เรื่องนี้อย่างแน่นอน (ฟันเฟริ์ม) อิอิ.. ยังไงเพื่อนๆ ก็ดูไว้หน่อยแล้วกันนะครับ..เรื่องที่เราจะเน้นย้ำให้ดู น่าจะมีหลัก ๆ อยู่ 3 อย่างด้วยกัน คือ

1. โครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ

2. หลักสูตรแกนกลาง’51 (โดยเฉพาะข้อแตกต่างหรือที่เพิ่มจาก ปี44)

3. การจัดการเรียนการสอนด้วยวิธี Backward Design

ขอฝากให้เพื่อน ๆ ดูและจำในส่วนนี้ให้ขึ้นใจนะครับ...วิธีจำหลักๆ ไม่ต้องท่อง แต่ให้เน้นเล่าเรื่องได้ ราวกับว่าเล่านิทาน ยกตัวอย่างเช่น เกี่ยวกับเรียนฟรี 15 ปีเขาให้ฟรีอะไรบ้าง มีหลักการยังไง ส่วนหลักสูตรแกนกลางก็จำว่าแตกต่างจากหลักสูตร 2544 ยังไง มีอะไรเพิ่มขึ้นมาบ้างนะ แล้ววิธีการสอนแบบ Backward Design เนี่ยมีวิธีการสอนยังไง จุดเด่นตรงไหนเขาถึงจะนำมาใช้ทั่วประเทศของ สพฐ. อย่างงี้เป็นต้น เพื่อนๆ อย่าท่องจำแต่ให้หันมาเล่าเรื่องได้ เริ่มต้นด้วยการอ่านและมาเล่าให้เพื่อนๆ น้องๆ ญาติๆ ฟัง มันจะกลายเป็นความจำที่ฝังแน่นหรือคงทน หรือเรียกว่าจำจนเข้ากระดูกดำ (เหอๆ แรงไปไหม) ซึ่งดีกว่าท่องจำเป็นนกแก้ว นกขุนทองแล้วก็ลืมใช่ไหม๊ๆ..อีกอย่างหากพลาดคราวนี้ คราวหน้าก็จะไม่ต้องอ่านหนังสือเยอะ เพราะจำได้บางส่วนแล้ว ทำให้นึกออก คิดได้ ถ้าอ่านซ้ำสอง เป็นต้นไงครับ..แต่ยังไงคนที่เตรียมพร้อม ซ้อมดี ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่งนะ....เพื่อน ๆ ว่าไม๊.. พูดจนลืมไปเลยว่าเอาอะไรมาฝากเพื่อน ๆ บ้าง นี่เลย.. ข้อมูลด้านล่างนี้แหละ สำคัญๆ

หลักการ แนวคิด Backward Design

Backward Design หรือการออกแบบย้อนกลับ เป็นกระบวนการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่กำหนดหลักฐานการแสดงออกของผู้เรียน/กิจกรรมการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้ หรือตามผลการเรียนรู้ที่คาดหวังก่อน แล้วจึงออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถ และแสดงความรู้ ความสามารถตามหลักฐานการแสดงออกของผู้เรียน/กิจกรรมการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนที่กำหนดไว้ วิธีนี้ได้เผยแพร่โดย Grant Wiggins และ Jay McTighe เมื่อ ค..1998 ได้ให้แนวการออกแบบการจัดการเรียนรู้สำหรับ

1 หน่วยการเรียนรู้ไว้ 3 ขั้นตอนใหญ่ ๆ ได้แก่

ขั้นที่ 1 กำหนดความรู้ความสามารถของผู้เรียนที่ต้องการให้เกิดขึ้น (Identify desired results)ตามมาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ขั้นที่ 2 กำหนดหลักฐานการแสดงออกของผู้เรียนที่ต้องการให้เกิดขึ้น หลังจากได้เรียนรู้แล้วซึ่งเป็นหลักฐานการแสดงออกที่ยอมรับได้ว่า ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถตามที่กำหนดไว้ (Determine acceptable evidence of learning)

ขั้นที่ 3 ออกแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้(Plan learning experiences and instruction) เพื่อให้ผู้เรียนได้แสดงออกตามหลักฐานการแสดงออกที่ระบุไว้ในขั้นที่ 2 เพื่อเป็นหลักฐานว่า ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถตามที่กำหนดไว้ในขั้นที่ 1

ดาวน์โหลดเอกสารฉบับเต็ม เพื่อไปอ่านเกี่ยวกับ การออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยวิธี Backward Design ที่นี่...ครับ..โชคดีและโชคดี


วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552

ว่าด้วยเรื่อง : นโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพของรัฐบาล

สวัสดีเพื่อน ๆ ที่อ่านหนังสือสอบ นะครับ ก็ใกล้วันเข้ามาเต็มทีแล้ว อ่านหนังสือทันไหม วันนี้ผมจะมาพูดถึง นโยบายใหม่ของรัฐบาลนั่นก็คือ นโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ และผมก็คิดว่าน่าจะมีในข้อสอบอย่างแน่นอน วันนี้จึงเอาเนื้อหามาฝากครับ....

สาระสำคัญของนโยบาย เรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.. 2552 เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2552 เพื่อใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียน (เพิ่มเติมสำหรับการศึกษาของเอกชน) หนังสือเรียนอุปกรณ์การเรียน เครื่องแบบนักเรียน และกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ตามแผนงานเสริมสร้างรายได้พัฒนาคุณภาพชีวิตและความมั่นคงด้านสังคม โครงการสนับสนุนการจัดการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 15 ปี สำหรับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดังนี้

ค่าหนังสือเรียน

4,203,370,800 บาท

ค่าอุปกรณ์การเรียน

1,531,983,800 บาท

ค่าเครื่องแบบนักเรียน

3,158,678,100 บาท

ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน

2,117,506,400 บาท

รวมทั้งสิ้น

11,011,539,100 บาท

หากเพื่อน ๆ ต้องการข้อมูลฉบับเต็ม สามารถดาวน์โหลดข้อมูลเพื่อไปอ่านต่อ ได้นะครับ

คลิกที่นี่ ===นโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ=== เพื่อดาวน์โหลดข้อมูล

ส่วนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องได้แก่ .....นโยบาย นายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ รัฐธรรมนูฉบับ พ.ศ.2550

=============================================================================

ด้วยความปรารถนาดี ที่จะให้เพื่อน ๆ สอบได้ทุกคน

ปล. โครงการดีดีเพื่อให้เพื่อนสอบได้ ผลตอบรับดีเกินคาด ใครที่ยังไม่ได้ติดต่อรับด่วนเลยนะครับ..!!

ขอบคุณภาพประกอบ : : www.nma6.obec.go.th/.../view.php?article_id=2555

=============================================================================

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลาง’51 ตอน 2

กลับมาแล้วเพื่อน ๆ.... หลังจากไปต่างจังหวัดมา ทำให้งดรายการดีดีที่ส่งข้อสอบฟรีให้เพื่อน ๆ ไปตั้ง 2 วัน ตอนนี้กลับมาแล้วถ้าเพื่อน ๆ ยังต้องการอยู่ก็อ่านรายละเอียดด้านล่างเกี่ยวกับโครงการรับข้อสอบฟรีนะครับ...^_^...วันนี้....จะมาต่อเกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลาง 2551 นะครับ เผื่อออกข้อสอบ ซึ่งเราคิดว่าน่าจะออกเพราะเป็นเรื่องใหม่มากๆ

====================================================================

ถาม : หลักสูตรแกนกลาง’51 เริ่มใช้เมื่อใด อย่างไร

ตอบ : เริ่มใช้ในปีการศึกษา 2552 กับโรงเรียนต้นแบบการใช้หลักสูตรและโรงเรียนที่มีความพร้อม ตามรายชื่อที่ ศธ.ประกาศ โดยใช้หลักสูตรแกนกลางฯ พร้อมกันทุกระดับชั้นในช่วงชั้นที่ 1 และ 2 นั่นคือตั้งแต่ ป.1 ถึง ป.6 เปลี่ยนพร้อมกันเลยทีเดียว ส่วนระดับมัธยมศึกษาให้ทะยอยเปลี่ยนไปทีละระดับชั้น เริ่มที่ ม.1 และ ม.4 ก่อน ปีการศึกษา 2553 ให้ใช้หลักสูตรแกนกลาง’51 ในชั้น ป.1-6 ชั้น ม.1,2 และชั้น ม.4,5 และตั้งแต่ปีการศึกษา 2554 เป็นต้นไปให้ใช้หลักสูตรแกนกลาง’51 ทุกชั้นเรียน

ส่วนโรงเรียนทั่วไป ในปีการศึกษา 2553 ให้ใช้หลักสูตรแกนกลาง’51 ในชั้น ป.1-6 และ ม.1,4 ส่วนปีการศึกษา 2554 ให้ใช้หลักสูตรแกนกลาง’51 ในชั้น ป.1-6 และ ม.1,2 และชั้น ม.4,5 และตั้งแต่ปีการศึกษา 2555 เป็นต้นไปให้ใช้หลักสูตรแกนกลาง’51 ทุกชั้นเรียน

====================================================================

ถาม : การวัดประเมินผลของหลักสูตรแกนกลาง’51 ต่างจากหลักสูตร’44 อย่างไรบ้าง

ตอบ : เดิมหลักสูตร’44 กำหนดให้ ระดับชั้น ป.1-ม.3 ตัดสินผลการเรียนเป็นรายปี และมัธยมศึกษาตอนปลายตัดสินผลเป็นรายภาคนั้น หลักสูตรแกนกลาง’51 ได้ปรับให้ระดับประถมศึกษา (ป.1-6) ยังคงตัดสินผลการเรียนเป็นรายปีเช่นเดิม แต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นให้เปลี่ยนการตัดสินผลการเรียนเป็นรายภาค เพื่อให้สอดคล้องกับระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่ใช้ระบบหน่วยกิต นอกจากนี้ยังกำหนดให้การบริการสังคม เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและต้องได้รับการประเมินผลอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม

====================================================================

วันนี้!!...พอแค่นี้ก่อนนะครับ ขอให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้องๆ สอบได้และได้ลำดับดีๆ อันดับต้นๆ บรรจุรอบแรกทุกคนนะครับ...อย่าลืมนะครับ...โครงการรับข้อสอบฟรี เปิดให้บริการเพื่อนๆ เหมือนเดิมแล้วเพราะว่าอยู่ในช่วงปิดเทอม ถ้าเปิดเทอมแล้วคงไม่ได้ให้บริการเพื่อน ๆ แล้วนะครับ...งั้นรีบหน่อยแล้วกันนะครับ...^_^

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2552

ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลาง’51

ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลาง’51

สวัสดีเพื่อนๆ วันนี้เราได้รวบรวม เกี่ยวกับหลักสูตรแกนกลาง’51 เนื่องจากเราคิดว่าน่าจะมีการออกข้อสอบแน่นอน เพราะปี 2553 จะนำมาใช้กับทุกโรงเรียน และจะจัดการเรียนการสอนโดยใช้ Backward Design คือการจัดการเรียนการสอนแบบย้อนกลับนั่นเอง ซึ่งโรงเรียนเราก็ได้ใช้แล้ว เพราะเป็นโรงเรียนนำร่อง นั่นเอง วันนี้จึงเอามาเปรียบเทียบให้เพื่อนๆ ดูเพราะคิดว่าน่าจะออกข้อสอบนะ

ถาม หลักสูตรแกนกลาง’51 มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากหลักสูตร’44 บ้าง

ตอบ หลักสูตรแกนกลาง’51 เพิ่มจากหลักสูตร’44 ยังไง จึงทำตารางเปรียบเทียบให้ดูนะเพื่อนๆ

หลักสูตร’44

หลักสูตรแกนกลาง’51

-

-

-

ง. มาตรฐานช่วงชั้น

จ. ให้ตัวอย่างสาระการเรียนรู้

ฉ. กำหนดเวลาเรียนรวมแต่ละปี

ช. สถานศึกษากำหนดเกณฑ์การวัดประเมินผล

ซ. ตัดสินผลการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเป็นรายปี

ฌ กำหนดระดับการศึกษาเป็น 4 ช่วงชั้น

ก. เพิ่มวิสัยทัศน์

ข. เพิ่มสรรถนะสำคัญ

ค. ปรับปรุงคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ง. กำหนดตัวชี้วัดชั้นปี (ป.1-ม.3) ตอนหลักสูตร 44 เรียกว่ามาตรฐานช่วงชั้น

จ. กำหนดสาระการเรียนรู้แกนกลางชัดเจน

ฉ. กำหนดโครงสร้างเวลาเรียนขั้นต่ำแต่ละกลุ่มสาระในแต่ละปี

ช. ส่วนกลางกำหนดเกณฑ์การวัดประเมินผลกลาง

ซ. ตัดสินผลการเรียนระดับ ม.ต้น เป็นรายภาค

ฌ. กำหนดระดับการศึกษาเป็น ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย

และขออธิบายให้เพื่อนๆ ฟังเพื่อขยายความในส่วนที่ หลักสูตรแกนกลาง’51 ได้เพิ่มขึ้นมา ดังนี้

ก. เพิ่มวิสัยทัศน์ ซึ่งสรุปได้ดังนี้ พัฒนาผู้เรียน สมดุลด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม จิตสำนึกในการเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่นการปกครองแบบประชาธิปไตย เพื่อให้มีความรู้ ทักษะพื้นฐาน เจตคติ เพื่อให้พร้อมสำหรับ ศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ การศึกษาตลอดชีวิต นั่นเอง

ข. เพิ่ม สมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน 5 ประการ คือ

1. ความสามารถในการสื่อสาร

2. ความสามารถในการคิด

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชิวิต

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

ค. ปรับปรุงคุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต 3. มีวินัย 4. ใฝ่เรียนรู้

5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ

วันนี้....พอแค่นี้ก่อนนะเพื่อนๆ ส่วนการจัดการเรียนการสอนแบบ Backward Design เหมือนเราจะรวบรวมไว้แล้วในบล๊อกนี้แหละ ลองหาดูนะครับ....ขอให้โชคดี

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

ประกาศผลสอบ ข้าราชการครูกทม.

ประกาศผลสอบ ข้าราชการครูกทม. (รอประกาศ นาทีต่อนาที)
และแล้วผลการสอบ ก็ออกเสียที และระบบก็่ล่มแล้วล่มอีกเพราะคนแห่ดูผลประกาศนะครับ....
จึงเพิ่มช่องทางให้เพื่อนดูผลอีกทาง ที่บล๊อกนี้นะครับ.....
================================================================
คลิกที่นี่ ผลการสอบแข่งขันและวันเวลารายงานตัวเพื่อบรรจุและแต่งตั้ง
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาภาษาอังกฤษ
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาอนุบาลศึกษา
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาภาษาไทย
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชานาฏศิลป์
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาพลศึกษา
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาดนตรี
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาศิลปศึกษา - วาดเขียน
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาคหกรรม
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาบรรณารักษ์
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาเกษตรกรรม
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาแนะแนว
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาสังคมศึกษา
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาวัดผล
คลิกที่นี่ กลุ่มวิชาการศึกษาพิเศษ


================================================================
ขอแสดงความยินดีกับคนที่ได้บรรจุ และขึ้นบัญชีทุกคนนะจ๊ะ..^_^.....

หน่วยงานราชการ เปิดสอบหลายหน่วย ดังนี้

หน่วยงานราชการ เปิดสอบหลายหน่วย ดังนี้

1. กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดสอบบรรจุเข้ารับราชการ
เปิดรับตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน ถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2552 สมัครผ่านเว็บไซต์ออนไลน์
คลิกที่ี่นี่เพื่อดูประกาศสอบ

2. กรมวิทยาศาสตร์บริการ เปิดสอบ "นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ" สมัครสอบออนไลน์
คลิกที่นี่ เพื่อดูประกาศรับสมัคร

3. เปิดสอบภาค ข. ที่ อบต.สาคู จังหวัดภูเก็ต
คลิกที่นี่ เพื่อดูประกาศรับสมัคร

4. ก.พ. (เปิดสอบ ภาค ก.1-27 เม.ย.52 ป.โท
คลิกที่นี่ เพื่อดูประกาศรับสมัคร

5. เปิดสอบ ข้าราชการกรุงเทพมหนาครสามัญ อีกแล้ว
คลิกที่นี่ เพื่อดูประกาศรับสมัคร


ขอให้เพื่อน....ๆ...โชคดีสอบได้....